วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

วิธีอัปโหลดไฟล์วีดีโอขึ้นyoutube

Google+ คืออะไร?

Google+ คืออะไร? เพิ่มเติม:
  • บทความโดย eak500 : July 19th, 2011


  • Google+ คืออะไร? หลายคนอาจจะยังไม่แน่ใจ?
    Google+ คือ คู่แข่งโดนตรงของ Facebook ครับ
    Google แทงข้างหน้าตรงๆทะลุถึงหัวใจ Mark Zuckerberg โดยออก Google+ ที่มีหน้าตาการทำงานคล้ายกับ facebook
    แต่!!! มีจุดขายที่สำคัญอยู่จุดนึงที่โดนใจคนทั่วโลกคือ การเป็น Multi-level social network
    คือ แทนที่ทุกคนจะเป็นเพื่อนกันหมด (Single level) เวลาเรา post อะไร ทุกคนที่เป็นเพื่อนเราก็จะเห็นหมด
    แต่ใน Google+ เราสามารถจัดกลุ่มคนที่อยู่ใน contact list ของเราได้ (google+ เรียกกลุ่มว่า Circle) แล้วเราสามารถ”เลือก”ที่จะแบ่งบัน post, รูป,…กับกลุ่มไหนก็ได้
    หรือกับทุกกลุ่มก็ได้ … แค่นี้แหละคือจุดต่างจุดใหญ่
    หลายคนอาจจะเถียงว่า facebook สามารถสร้าง Group ได้เหมือนกัน แล้วเราก็ set ให้ Group เราเป็น private ซะ
    เวลาเรา post อะไรใน Group ก็จะมีแค่คนในกลุ่มเท่านั้นที่มองเห็น
    แต่…จุดด้อยก็คือ คนที่อยู่ในกลุ่มเค้าจะรู้ว่า เค้าอยู่ในกลุ่มอะไร
    ในGoogle+ คนอื่นไม่สามารถรู้ได้ว่า เค้าอยู่ในกลุ่มอะไรของเรา แล้วเค้าก็จะเห็นสิ่งต่างๆของเรา เฉพาะสิ่งที่เราอยากให้เค้าเห็น
    โดยเค้าก็ไม่รู้ว่าเราให้คนอื่นเห็นอะไรบ้าง

    …แค่จุดต่างจุดเดียว มันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอ?
    สำคัญครับ เพราะถือว่า Google ตอบโจทย์คนที่ไม่ค่อยอยากใช้ facebook ได้อย่างถูกจุด
    ในชีวิตจริงคนเรา ความสัมพันธ์ของเรากับคนที่รู้จักมันไม่ได้เป็นระดับเดียว มันเป็น multi-level จริงไหมครับ?
    เราไม่ได้มีแค่เพื่อน
    เรามีครอบครัว เรามีพี่น้อง เรามีอาจารย์ เรามีเจ้านาย เรามีลูกน้อง เรามีเพื่อนสนิท เพื่อนไม่สนิท เพื่อนที่ทำงาน เพื่อนนักเรียน โอ่วเยอะแยะไปหมด
    เวลาเราจะเขียนข้อความ จะแบ่งบันรูปให้ใครดูก็คงไม่อยากให้คนรู้จักเราทุกคนเห็นใช่ไหมครับ ตัวอย่างเช่น
    เราลาป่วยกับหัวหน้า … แต่วันนั้นกลับแปะรูปไปเดินพารากอนกับเพื่อนลงไปใน facebook…. ลืมไป หัวหน้าอยู่ใน facebook  จบกัน T___T
    เราคุยกับเพื่อนอย่างติงต๊อง ก็ไม่อยากให้ลูกน้องมาเห็นใช่ปะ?
    เราคุยกับเพื่อนสนิทอย่างหยาบคาย เราก็ไม่อยากให้ครอบครัวมาเห็นใช่ปะ?
    เราจีบน้องปูอยู่, เราก็ไม่อยากให้น้องเจมาเห็นใช่ปะ?
    หัวหน้ามาขอ Add เราเป็นเพื่อน จะปฏิเสธก็เกรงใจใช่ปะ?
    Google+ ตอบโจทย์ตรงนี้ได้หมดครับ

    นอกจากนั้น การ Add เพื่อนใน Google+ ก็ไม่จำเป็นต้องขอ ไม่ต้องรอเค้าอนุญาติ
    เรา Add เค้าได้เลย (ใน Google+ เรียกว่า “add to circle”) แล้วเวลาเราต้องการ share อะไรให้ทุกคนเห็นเราก็ทำได้ (เลือก public เวลาจะ post)
    ซึ่งก็เหมือนกัน Twitter ที่เราสามารถ follow ใครก็ได้ และก็ Share ข้อความให้ทุกคนที่ follow เราได้
    แต่ Google+ ไม่ได้จำกัดแค่ 140 ตัวอักษร
    แต่ Google+ สามารถ Share รูป, Share วีดีโอได้ในตัวอีกด้วย
    ทำให้ Google+ นอกจากจะเป็นคู่แข่งโดยตรงของ facebook แล้ว  , Google+ ยังเป็นคู่แข่งโดยตรงของ Twitter อีกต่างหาก

    นอกจากนั้น Google+ ยังสามารถ Check-in ได้ด้วยครับ … เป็น location base social network
    แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็น Google เน้นจุดนี้มาก แต่ในอนาคตก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคู่แข่งของ Foursquare เหมือนกัน

    จากที่กล่าวมาแล้วผมสร้างสมการได้ตามนี้ครับ
    Google+ = (Facebook+Twitter+Foursquare) x Google service ต่างๆที่มีอยู่แล้ว
    เจ๋งไหมล่ะครับโครงการ Google+ ของ Google

    เอาหล่ะ นอกจากภาพรวมที่ผมอธิบายไปแล้ว เราไปดูรายละเอียดของบริการ Google+ กัน

    Circles: คือกลุ่มของคนที่อยู่ใน Contact list ของเรา , เราสามารถสร้าง Circle อะไรก็ได้ เอาใครมาไว้ใน Circle นั้นก็ได้ หรือคนหนึ่งคนจะอยู่ในหลายๆ Circle ก็ได้

    Hangouts: คือ Group Video Chat, เราเปิด Hangout เพื่อเริ่ม Video Chat แล้วเราก็สามารถ Invite เพื่อนเราให้เข้ามา Chat กับเราได้

    Sparks: คือ คือการแบ่งบันสิ่งที่เราชอบกับเพื่อน เริ่มโดยการใช้ Sparks search … Spark ก็จะ search ตามข้อมูลใน Google+ ตามเว็บต่างๆ ถ้าเราชอบอันไหนเราก็กด Share ได้

    Huddle: คือ Group messaging

    Google+ set อะไรได้บ้าง

    Google+ บนมือถือ(และ Tablet): ตอนนี้มีแค่บน Android ครับ , iPhone รอไปก่อน

    Instant upload:


    อยากเล่นแล้ว?

    เพิ่มเติม:
    iPhone App ของ Google+ ออกแล้วครับ…ไปตาม link เลย  แต่ app นี้โหลดได้แค่ใน app store ของอเมริกาเท่านั้น…ใครอยากรู้ว่าโหลด App อเมริกาทำอย่างไรอ่านได้ที่นี่

    อ้างอิง

    อ้างอิงรูป

    Google คืออะไร ?

    Google คือ ผู้ให้บริการ Search Engine ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีผู้นิยมใช้งานมากกว่า 80% จากผู้เล่นอินเตอร์เน็ตทั้งหมดGoogle นอกจากจะให้บริการ Search Engine แล้ว ยังมีบริการอื่นๆที่มีประโยชน์อีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น Gmail หรือ GoogleMail เป็นบริการอีเมลล์ฟรีและมีขนาดพื้นที่เก็บเมลล์ใหญ่จุใจ ที่สำคัญ Google ให้ใช้ฟรีซะด้วยสิ Google Adsense เป็นแหล่งทำเงินบนอินเตอร์เน็ตชั้นดี ไม่ใช่ระบบลูกโซ่แบบที่เห็นๆกันในมากมายในบ้านเรา และที่ดีที่สุดคือไม่เบี้ยวเงินเราแน่นอน เมื่อเราทำยอดได้ตามเป้าหมาย กูเกิ้ลก็จะส่งเช็คมาถึงตู้จดหมายบ้านเรา ศึกษาเกี่ยวกับ การหารายได้จาก Google Google Adwords ใช้สำหรับลงโฆษณากับกูเกิ้ล เป็นการโปรโมทเว็บไซต์ในระยะสั้น และค่อนข้างได้ผลดี (โดยเฉพาะเว็บภาษาอังกฤษล้วน) GoogleAdwords เองยังสามารถนำไปประยุกต์เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย Blogger เป็น blog สารพัดประโยชน์ที่ผลิตโดยกูเกิ้ล จึงรองรับ Application ต่างๆในเครือกูเกิ้ลด้วย เช่น Google Adsense, Picasa Photo Album เป็นต้น ทำให้เราสามารถสร้าง Blog ดีๆแถมยังทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำอีกด้วย Google Webmaster Tools ชื่อก็บอกนะว่าเครื่องมือสำหรับเว็บมาสเตอร์ ซึ่งก็จะช่วยเว็บมาสตอร์จัดการส่งเว็บไซต์ของตนเข้าสู่การ Index ในกูเกิ้ล และมีบริการเก็บสถิติการ Crawl จากGoogle Bot ด้วย Google Analytics เป็นบริการวิเคราะห์สถิติของผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ อีกทั้งยังสามารถบอกแหล่งที่มาของผู้เข้าชม และ พื้นที่ของประเทศที่ผู้เข้าชมอาศัยอยู่ด้วย

    ประโยชน์ของ Social Networking

    ประโยชน์ของ Social Networking
    รศ.ดร.พสุ เดชะรินทร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยpasu@acc.chula.ac.th กรุงเทพธุรกิจ วันอังคารที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2552
    ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ชื่อของ Facebook และ Twitter ซึ่งเป็นเว็บไซต์ชื่อดังในสังคมหรือชุมชนออนไลน์ (Social Networking) ได้กลายเป็นที่รู้จักและกล่าวขวัญกันในวงกว้างมากขึ้นนะครับ เมื่อทั้ง FB และ Twitter ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญทางการเมืองและการตลาดของทั้งอดีตนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรีปัจจุบัน เว็บทางด้าน Social Networking เหล่านี้ บางคนอาจจะมองว่าเป็นของเล่นสนุกๆ บนโลกอินเทอร์เน็ต แต่ถ้าสามารถใช้ให้ถูกแล้วเราสามารถใช้เว็บเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์ได้ครับ โดยแทนที่เว็บเหล่านี้ จะเป็นเพียงสื่อหรือสังคมออนไลน์ เรามามองเว็บเหล่านี้ให้เป็นเครื่องมือทางการตลาดดูกันบ้าง
    ประการแรก เลย เราสามารถใช้เว็บเหล่านี้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารข้อความต่างๆ ไม่ว่าของตนเองหรือขององค์กรออกไปยังคนกลุ่มหนึ่ง โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาดแต่อย่างใด บางคนก็เรียกเป็นกลยุทธ์ปากต่อปาก หรือ Viral Marketing ที่เมื่อเราโพสต์ข้อความบางประการลงไปในเว็บสังคมออนไลน์เหล่านี้ คนจำนวนมากที่เป็น "เพื่อน" ของเราหรือติดตามเราอยู่ ก็จะได้รับข้อมูลเหล่านั้น และถ้าข้อความดังกล่าวมีความน่าสนใจ ข้อความดังกล่าวก็จะถูกสื่อสารต่อออกไปเรื่อยๆ อย่างเช่น Twitter ของนายกฯ และอดีตนายกฯ ที่ต่างก็พยายามใช้สื่อนี้ในการทำ Viral Marketing อย่างกรณีของอดีตนายกฯ นั้น ก็เขียนไว้ใน Twitter ของตนเองว่า "เมื่อวานนี้ได้รับสิทธิทำลอตเตอรี่ในอูกานดาเพื่อนำรายได้มาคัดเด็กเก่งๆ ส่งไปเรียนต่างประเทศบางคนก็จะส่งมาเรียนในไทย รวมทั้งส่งเสริมฟุตบอลด้วย" ในขณะที่ Twitter ของนายกฯ ปัจจุบัน ก็เขียนไว้ว่า "เปิดตัวเว็บไซต์ประจำตัวนายกรัฐมนตรีไทย และเพิ่มช่องทางสื่อสารใหม่ของประชาชนผ่านทาง " ซึ่งเชื่อว่านักข่าวก็ติดตาม Twitter ของบุคคลทั้งสอง เพื่อที่จะได้เผยแพร่นำข้อมูลเหล่านี้ไปเผยแพร่ผ่านทางสื่อมวลชนอีกต่อไป
    ประการที่สอง นอกจากจะเป็นสื่อในการส่งข้อความแล้ว เรายังสามารถใช้เว็บสังคมออนไลน์เป็นที่ที่แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเกี่ยวกับองค์กรที่เราทำงาน เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการที่เราใช้ หรือเกี่ยวกับการเมือง ผมเองลองพิมพ์ค้นหาคำว่า Abhisit ลงไปใน Twitter ก็จะเจอความเห็นใน Twitter ของประชาชนทั่วๆ ไปทั้งในเชิงบวกและลบเกี่ยวกับนโยบายและกิจกรรมของท่านนายกฯ หรือพอพิมพ์คำว่า McDonald ลงไปใน Twitter ก็จะเจอความเห็นเกี่ยวกับสินค้าของ McDonald อยู่เต็มไปหมด ดังนั้น ถ้าใช้ให้ดีๆ แล้วสังคมออนไลน์เหล่านี้ จะกลายเป็นช่องทางในการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสินค้าและบริการต่างๆ ซึ่งไม่ช้าไม่นาน องค์กรต่างๆ ก็คงต้องหาคนมาคอยเฝ้าเว็บสังคมออนไลน์เหล่านี้ เพื่อคอยสืบและติดตามข่าวเกี่ยวกับองค์กรตนเอง
    นอกจากจะใช้เว็บเหล่านี้เป็นช่องทางในการวิจารณ์ชาวบ้านเขาแล้ว เมื่อองค์กรของตนเองมีข่าวหรือกิจกรรมอะไรที่น่าสนใจ เราก็สามารถใช้เว็บเหล่านี้เป็นกลไกในการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข่าวสารดีๆ เกี่ยวกับองค์กรของตนเองไปยังบุคคลต่างๆ รอบๆ ตัวเรา ผมเองก็ใช้บริการในลักษณะนี้บ่อยๆ เวลาหลักสูตรที่ดูแลจะรับสมัครนิสิตรุ่นใหม่ ก็จะใช้ FB เป็นกลไกในการประกาศรับสมัครนิสิต หรืออย่างที่คณะบัญชี จุฬาฯ จะจัดสัมมนา Management pit ในวันพฤหัสที่จะถึงนี้ ผมก็ไปปล่อยข่าวไว้ทั้งใน FB และ Twitter ของตนเอง (สนใจก็โทรไปสอบถามได้ที่             0-2218-5867      ) ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะได้ผลดีครับ
    บางองค์กรยังใช้ FB และ Twitter เป็นเครื่องมือในการตอบคำถาม หรือข้อข้องใจของลูกค้าเกี่ยวกับข้อร้องเรียนเกี่ยวกับสินค้าและบริการต่างๆ โดยจะมีพนักงานคนหนึ่งทำหน้าที่ในการติดตามข่าวสารหรือข้อร้องเรียน เสียงโวยวายต่างๆ ที่ปรากฏใน FB และ Twitter และทำหน้าที่ในการชี้แจงข้อมูล ข้อเท็จจริงต่างๆ รวมทั้งตอบคำถามที่ปรากฏอยู่ในเว็บสังคมออนไลน์เหล่านี้ จริงๆ แล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องมีคนใดคนหนึ่งทำหน้าที่ติดตาม ข้อมูลข่าวสารบนเว็บสังคมออนไลน์เท่านั้น แต่อาจจะเป็นหน้าที่ของพนักงานทุกคนเลยก็ได้ครับ ว่า ถ้าเจอข้อวิพากษ์วิจารณ์เหล่านี้ปรากฏขึ้นเมื่อไร ก็จะต้องทำหน้าที่ในการตอบและชี้แจงทันทีไม่ต้องรอให้คนที่รับผิดชอบเป็นคนคอยมาตอบและดูแลเท่านั้น
    ปัจจุบันในเมืองไทยนั้น Twitter กำลังเป็นที่นิยมกันในระดับหนึ่ง (และเริ่มมากขึ้นหลังกลายเป็นสมรภูมิระหว่างผู้นำประเทศในปัจจุบันและอดีตผู้นำประเทศ) แต่ที่กำลังฮิตๆ กันมากก็หนีไม่พ้น Facebook ที่ในอดีตเว็บในลักษณะนี้ เป็นแหล่งชุมนุมของวัยรุ่น (Hi 5 เป็นต้น) แต่พอมาเป็น Facebook แล้วปรากฏว่ากลุ่มที่ไม่ใช่วัยรุ่นจะหันมาใช้และเล่นกันมากขึ้น มีงานวิจัยในอังกฤษที่ชี้ให้เห็นว่าวัยรุ่นในอังกฤษได้เริ่มลดความสนใจในเว็บ Social Networking ลงไป เหมือนกับว่าเว็บ Social Networking เหล่านี้ เริ่มถึงจุดอิ่มตัวสำหรับวัยรุ่น แต่ถ้าเป็นวัยผู้ใหญ่ กลับตอบรับต่อ Facebook ด้วยดี ซึ่งก็คล้ายๆ ในไทยที่ปัจจุบันเห็นวัยผู้ใหญ่หันมาเล่น และใช้ Facebook กันมากขึ้น
    อย่างไรก็ดี เราคงต้องหาทางใช้เว็บเหล่านี้ให้เป็นประโยชน์บ้างนะครับ ไม่ใช่เป็นสถานที่บ่น ระบายอารมณ์ หรือเป็นที่หยอดคำหวานๆ ของชายหนุ่ม (ลูกศิษย์คนหนึ่งของผมเพิ่งเขียนลงไปใน FB ว่า "นานแค่ไหนแล้ว ที่เราไม่ได้ออกไปมองท้องฟ้ายามค่ำคืน" ทั้งๆ ที่เป็นตอนบ่าย) หรือแม้กระทั่งสถานที่เล่นเกมและแบบทดสอบแหล่งใหม่ เพื่อหาคำตอบว่าตัวเองเป็นคนอย่างไรหรือชอบอะไร

    WWW คืออะไร

    WWW คืออะไร WWW คือ เน็ตเวิร์คที่มีการเชื่อมต่อกันไปทั่วโลก มักเรียกสั้นๆว่า เว็บ

    WWW  คือ
    WWW ย่อมาจาก Wold Wide Web คือ เครือข่ายที่เชื่อมต่อกันทั่วโลก เรามักเรียกย่อๆกันว่า เว็บ คือรูปแบบหนึ่งของระบบการเชื่อมโยงเครือข่ายข่าวสาร ใช้ในการค้นหาข้อมูลข่าวสารบน Internet จากแหล่งข้อมูลหนึ่ง ไปยังแหล่ง ข้อมูลที่อยู่ห่างไกล ให้มีความง่ายต่อการใช้งานมากที่สุด   WWW จะแสดงผลอยู่ในรูปแบบของเอกสารที่เรียกว่า ไฮเปอร์เท็กซ์ (Hyper Text) ซึ่งเป็นฐานข้อมูลชนิดหนึ่งที่ทำหน้าที่รวบรวมข่าวสารข้อมูลที่อยู่กระจัดกระจายในที่ต่าง ๆ ทั่วโลกให้สามารถนำมาใช้งานได้เสมือนอยู่ในที่เดียวกัน  โดยใช้เว็บเบราเซอร์ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ช่วยในการดู หรืออ่านข้อมูลเหล่านั้น เว็บเบราวเซอร์ที่นิยมใช้ เช่น Microsoft Internet Explorer , Firefox , google chrome เป็นต้น 

    ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต

    ประโยชน์ของอินเทอร์เน็ต

              ปัจจุบันอินเทอร์เน็ต มีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของคนเรา หลายๆ ด้าน ทั้งการศึกษา พาณิชย์ ธุรกรรม วรรณกรรม และอื่นๆ ดังนี้
    ด้านการศึกษา 
              - สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่นๆ ที่น่าสนใจ 
              - ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่เสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ 
              - นักศึกษาในมหาวิทยาลัย สามารถใช้อินเทอร์เน็ต ติดต่อกับมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็น ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหวต่างๆ เป็นต้น 

    ด้านธุรกิจและการพาณิชย์ 
              - ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ 
              - สามารถซื้อขายสินค้า ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 
              - ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตน ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คำแนะนำ สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware) หรือโปรแกรมแจกฟรี (Freeware) เป็นต้น 

    ด้านการบันเทิง 
              - การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine o­nline รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่นๆ โดยมีภาพประกอบ ที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสาร ตามร้านหนังสือทั่วๆ ไป 
              - สามารถฟังวิทยุผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ 
              - สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์ตัวอย่างทั้งภาพยนตร์ใหม่ และเก่า มาดูได้
     
              จากเหตุผลดังกล่าว พอจะสรุปได้ว่า อินเทอร์เน็ต มีความสำคัญ ในรูปแบบ ดังนี้ 
           
              1. ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic mail=E-mail) เป็นการส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตโดยผู้ส่งจะต้องส่งข้อความไปยังที่อยู่ของผู้รับ และแนบไฟล์ไปได้ 
              2. เทลเน็ต (Telnet) การใช้งานคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่งที่อยู่ไกล ๆ ได้ด้วยตนเอง เช่น สามารถเรียกข้อมูลจากโรงเรียนมาทำที่บ้านได้ 
              3. การโอนถ่ายข้อมูล (File Transfer Protocol ) ค้นหาและเรียกข้อมูลจากแหล่งต่างๆมาเก็บไว้ในเครื่องของเราได้ ทั้งข้อมูลประเภทตัวหนังสือ รูปภาพและเสียง 
              4. การสืบค้นข้อมูล (Gopher,Archie,World wide Web) การใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตในการค้นหาข่าวสารที่มีอยู่มากมาย ใช้สืบค้นข้อมูลจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ทั่วโลกได้ 
              5. การแลกเปลี่ยนข่าวสารและความคิดเห็น (Usenet) เป็นการบริการแลกเปลี่ยนข่าวสารและแสดงความคิดเห็นที่ผู้ใช้บริการอินเทอร์เน็ตทั่วโลก แสดงความคิดเห็นของตน โดยกลุ่มข่าวหรือนิวกรุ๊ป(Newgroup)แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 
              6. การสื่อสารด้วยข้อความ (Chat,IRC-Internet Relay chat) เป็นการพูดคุย โดยพิมพ์ข้อความตอบกัน ซึ่งเป็นวิธีการสื่อสารที่ได้รับความนิยมมากอีกวิธีหนึ่ง การสนทนากันผ่านอินเทอร์เน็ตเปรียบเสมือนเรานั่งอยู่ในห้องสนทนาเดียวกัน แม้จะอยู่คนละประเทศหรือคนละซีกโลกก็ตาม 
              7. การซื้อขายสินค้าและบริการ (E-Commerce = Electronic Commerce) เป็นการซื้อ - สินค้าและบริการ ผ่านอินเทอร์เน็ต 
              8. การให้ความบันเทิง (Entertain) บนอินเทอร์เน็ตมีบริการด้านความบันเทิงหลายรูปแบบต่างๆ เช่น รายการโทรทัศน์ เกม เพลง รายการวิทยุ เป็นต้น เราสามารถเลือกใช้บริการเพื่อความบันเทิงได้ตลอด 24 ชั่วโมง
              โดยสรุปอินเทอร์เน็ต ได้นำมาใช้เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับงานไอที ทำให้เกิดช่องทางในการเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ว ช่วยในการตัดสินใจ และบริหารงานทั้งระดับบุคคลและองค์กร

    ความสำคัญของอินเทอร์เน็ต

    ความสำคัญของอินเทอร์เน็ต
              ในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีบทบาทและมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของคนเราเป็นอย่างมาก  เพราะทำให้วิถีชีวิตเราทันสมัยและทันเหตุการณ์อยู่เสมอ  เนื่องจากอินเทอร์เน็ตจะมีการเสนอข้อมูลข่าวปัจจุบัน  และสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นให้ผู้ใช้ทราบเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน  สารสนเทศที่เสนอในอินเทอร์เน็ตจะมีมากมายหลายรูปแบบเพื่อสนองความสนใจและความต้องการของผู้ใช้ทุกกลุ่ม  อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งสารสนเทศสำคัญสำหรับทุกคนเพราะสามารถค้นหาสิ่งที่ตนสนใจได้ในทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปค้นคว้าในห้องสมุด  หรือแม้แต่การรับรู้ข่าวสารทั่วโลกก็สามารถอ่านได้ในอินเทอร์เน็ตจากเว็บไซต์ต่าง ๆ ของหนังสือพิมพ์
              ดังนั้นอินเทอร์เน็ตจึงมีความสำคัญกับวิถีชีวิตของคนเราในปัจจุบันเป็นอย่างมากในทุก ๆ ด้าน  ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่อยู่ในวงการธุรกิจ  การศึกษา  ต่างก็ได้รับประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตด้วยกันทั้งนั้น
              1.  ด้านการศึกษา  อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญ  ดังนี้
                        1.  สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล  ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ  ข้อมูลด้านการบันเทิง  ด้านการแพทย์  และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
                        2.  ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต  จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่
                        3.  นักเรียนนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้  ทั้งที่ข้อมูลที่เป็นข้อความเสียง  ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ
              2.  ด้านธุรกิจและการพาณิชย์  อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญดังนี้
                        1.  ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ
                        2.  สามารถซื้อขายสินค้า  ทำธุรกรรมผ่านระบบเครือข่าย
                        3.  เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์  โฆษณาสินค้า  ติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ
                        4.  ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท    หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ  และสนับสนุนลูกค้าของตนผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้  เช่น  การให้คำแนะนำ  สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า  แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้ (Shareware)  โปรแกรมแจกฟรี (Freeware)
              3.  ด้านการบันเทิง  อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญดังนี้
                        1.  การพักผ่อนหย่อนใจ  สันทนาการ  เช่น  การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต  ที่เรียกว่า  Magazine Online  รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมีภาพประกอบที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสารตามร้านหนังสือทั่ว ๆ ไป
                        2.  สามารถฟังวิทยุหรือดูรายการโทรทัศน์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
                        3.  สามารถดึงข้อมูล  (Download)  ภาพยนตร์มาดูได้